ถอนผู้จัดการมรดกได้ไหม?

ถอนผู้จัดการมรดกได้ไหม?

เมื่อศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว หน้าที่หลักของผู้จัดการมรดกคือจัดการทรัพย์สิน จัดการหนี้สิน และแบ่งปันมรดกให้ทายาทอย่างถูกต้อง หากผู้จัดการมรดกไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ทำหน้าที่ล่าช้า ไม่โปร่งใส หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อกองมรดกหรือสิทธิของทายาท ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อ ขอถอนผู้จัดการมรดก ได้ เพื่อให้ศาลแต่งตั้งคนอื่นที่เหมาะสมมาทำหน้าที่แทน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทุกฝ่ายและให้การจัดการมรดกเสร็จสิ้นตามกฎหมาย

ถ้าผู้จัดการมรดกไม่ทำตามหน้าที่ ล่าช้า หรือไม่โปร่งใส ทายาทมีสิทธิขอศาลถอนแล้วให้ตั้งคนใหม่ได้ เพื่อให้จัดการมรดกอย่างถูกต้องและเป็นธรรม ⚖️

เหตุผลที่ถอนผู้จัดการมรดก

❌ ทำหน้าที่ไม่โปร่งใส

⏳ ล่าช้าหรือเพิกเฉย.

⚠️ ทำให้กองมรดกเสียหาย

️ ทายาขอยื่นถอนต่อศาลได้

————————————————————————

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทร : 02-1217414 ,091-0473382

Line : https://page.line.me/379vfaui

พิกัด : ถ.บางนาตราด (ใกล้ห้างเมกะบางนา)

เปิดให้บริการ [ จันทร์-ศุกร์ ] เวลา 09:00-17:00 น.

กฎหมายหน้ารู้

ข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท

ข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท

คือคำพูด ข้อความ หรือโพสต์ใด ๆ ที่กล่าวอ้างหรือพาดพิงถึงบุคคลอื่น โดยมีลักษณะดูหมิ่น ใส่ร้าย ทำให้บุคคลนั้นเสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชัง หรือถูกดูหมิ่นจากสังคม ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ หากทำให้บุคคลนั้นเสียหาย ย่อมเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทตามกฎหมาย ตัวอย่างเช่น การด่า การโพสต์กล่าวหาว่าคนอื่นเป็นโจร คดโกง หรือมีพฤติกรรมไม่ดีโดยไม่มีหลักฐาน

จำไว้ การหมิ่นประมาทอาจเกิดขึ้นได้ทั้งต่อหน้า สื่อออนไลน์ หรือแม้แต่ในแชทส่วนตัว หากผู้เสียหายสามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อความนั้นทำให้เสียหาย ก็สามารถดำเนินคดีได้ทั้งแพ่งและอาญา

✅ ตัวอย่าง

“มันโกงเงินคนอื่นมา อย่าไปเชื่อมัน”

“ระวังคนนี้นะ ขโมยของคนอื่นมาแล้วหลายครั้ง”

“เห็นคนนั้นไปนอนกับเจ้านายเพื่อแลกตำแหน่ง”

“ร้านนี้ของปลอมทั้งร้าน อย่าไปซื้อ”

“มันเป็นคนไม่ดี หลอกคนไปทั่ว”

สรุป

ถ้าข้อความทำให้คนอื่นเสียชื่อเสียง แม้จะจริงหรือไม่จริง และเผยแพร่ต่อคนอื่นจนทำให้ผู้ถูกกล่าวหาเสียหาย ก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทได้ทั้งนั้นค่ะ

……………………………………………………………………………..

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทร : 02-1217414 ,091-0473382

Line : https://page.line.me/379vfaui

พิกัด : ถ.บางนาตราด (ใกล้ห้างเมกะบางนา)

เปิดให้บริการ [ จันทร์-ศุกร์ ] เวลา 09:00-17:00 น.

 

กฎหมายหน้ารู้

พินัยกรรม

การเขียนพินัยกรรม เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

การเขียนพินัยกรรมคือการแสดงเจตนาของผู้เขียนว่าเมื่อเสียชีวิตลงแล้ว ต้องการให้ทรัพย์สินตกทอดแก่ใคร หรือจะจัดการกับทรัพย์สินอย่างไร การมีพินัยกรรมช่วยลดปัญหาการแย่งชิงมรดกในครอบครัว และทำให้ทรัพย์สินถูกจัดสรรตามความประสงค์ของเจ้าของ

รูปแบบพินัยกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายมีหลายแบบ เช่น

– พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ (ต้องเขียนด้วยลายมือทั้งหมด)
– พินัยกรรมแบบพิมพ์แล้วลงชื่อ พร้อมพยาน 2 คน
– พินัยกรรมต่อหน้าเจ้าพนักงาน (เช่น พนักงานกรมที่ดิน)

สิ่งสำคัญในการเขียนพินัยกรรม
– ผู้เขียนต้องมีสติสัมปชัญญะดี
– ต้องไม่มีการถูกบังคับ ข่มขู่ หรือจูงใจ
– ควรระบุชื่อผู้รับมรดกให้ชัดเจน และแจกแจงทรัพย์สินให้ครบถ้วน

 

แม้พินัยกรรมจะไม่ใช่เรื่องที่คนอยากคิดถึง แต่การเตรียมไว้ล่วงหน้าคือการวางแผนชีวิตอย่างรอบคอบ และเป็นการดูแลคนที่คุณรักในอนาคต
——————————————————————————————–
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร : 02-1217414 ,091-0473382
Line : https://page.line.me/379vfaui
พิกัด : ถ.บางนาตราด (ใกล้ห้างเมกะบางนา)
เปิดให้บริการ [ จันทร์-ศุกร์ ] เวลา 09:00-17:00 น.

กฎหมายหน้ารู้

ฟ้องขอแบ่งกรรมสิทธิรวม ต้องฟ้องเจ้าของรวมทุกคนเป็นจำเลย หรือไม่

ฟ้องขอแบ่งกรรมสิทธิรวม ต้องฟ้องเจ้าของรวมทุกคนเป็นจำเลยหรือไม่

คำถาม :  ฟ้องขอแบ่งกรรมสิทธิรวม ต้องฟ้องเจ้าของรวมทุกคนเป็นจำเลยหรือไม่
คำตอบ : ศาลฎีกาได้วินิจฉัยแนวคดีดังกล่าวเป็น ๒ แนวคือ

แนวแรกต้องฟ้องเจ้าของรวมทุกคนปรากฎตาม คำพิพากษาฎีกาที่ ๕/๒๕๕๘

         โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินให้แก่เจ้าพนักงานที่ดินและให้จำเลยให้ความยินยอมในการรังวัดแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมจำเลยให้การว่าที่ดินตามฟ้องเป็นทรัพย์มรดกตกทอดแก่ทายาทคือโจทก์จำเลยและพี่น้องร่วมบิดามารดารวมทั้งหมด5คนเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกซึ่งมีทายาทคนอื่นนอกจากโจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยแต่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยผู้เดียวแบ่งแยกที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์การกำหนดส่วนแบ่งตามคำขอของโจทก์อาจกระทบถึงสิทธิของทายาทคนอื่นซึ่งมิได้เข้ามาในคดีได้คำขอของโจทก์จึงไม่อาจบังคับได้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้อง

แนวที่ ๒ ไม่จำเป็นต้องฟ้องเจ้าของรวมทุกคน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๑๒๑/๒๕๔๐

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1363 บัญญัติให้เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินได้โดยมิได้บังคับให้เจ้าของรวมผู้ประสงค์จะให้แบ่งทรัพย์สินต้องฟ้องผู้มีกรรมสิทธิ์รวมทุกคน และเมื่อไม่ปรากฏว่ามีนิติกรรมขัดอยู่ ทั้งวัตถุประสงค์ที่เป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาทก็ไม่มีลักษณะเป็นการถาวร โจทก์ในฐานะที่เป็นเจ้าของรวมร่วมกับจำเลยบุคคลอื่นอีก จึงมีสิทธิเรียกขอให้แบ่งที่ดินพิพาทดังกล่าวให้แก่ตนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1363 การที่โจทก์เรียกให้แบ่งที่ดินพิพาทซึ่งอาจต้องดำเนินการแบ่งตามวิธีการที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364กำหนดไว้นั้น มิใช่เป็นการเรียกให้แบ่งทรัพย์สินในเวลาที่ไม่เป็นโอกาสอันควรตามมาตรา 1363 วรรคสาม

โดยสรุปเพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับการบังคับคดี ควรฟ้องเจ้าของรวมทุกคน

———————————————————————————————–

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทร : 02-1217414 ,091-0473382

Line : https://page.line.me/379vfaui

พิกัด : ถ.บางนาตราด (ใกล้ห้างเมกะบางนา)

เปิดให้บริการ [ จันทร์-ศุกร์ ] เวลา 09:00-17:00 น.

กฎหมายหน้ารู้

กฎหมายความรับผิดฐานโกงเจ้าหนี้

กฎหมายความรับผิดฐานโกงเจ้าหนี้

ตามบทบัญญัติกฎหมาย ป.อ. มาตรา 350 กำหนดไว้ว่า  “ ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ”

จากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า เจ้าหนี้ที่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ มิได้หมายถึงเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น    แต่ยังมีความหมายรวมถึงเจ้าหนี้อื่นซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิฟ้องให้ชำระหนี้ด้วย  ดังนั้นการแกล้งให้ตนเองเป็นหนี้อันไม่เป็นความจริง   ย่อมมีความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ได้ด้วย

——————————————————

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทร : 02-1217414 ,091-0473382

Line : https://page.line.me/379vfaui

พิกัด : ถ.บางนาตราด (ใกล้ห้างเมกะบางนา)

เปิดให้บริการ [ จันทร์-ศุกร์ ] เวลา 09:00-17:00 น.

 

กฎหมายหน้ารู้