• หน้าแรก
  • นโยบายของเรา
  • กฎหมายน่ารู้
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการของเรา
  • ลูกค้าของเรา
  • ติดต่อเรา
  • https://personeriadeaguachica.gov.co/

  • https://www.miyosushi.net/

  • slot thailand

  • slot depo 5k

อัตราดอกเบี้ยในคดีเงินกู้

อัตราดอกเบี้ยในคดีเงินกู้

               เกี่ยวกับดอกเบี้ยที่เรียกเก็บตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 654 ได้บัญญัติว่า     ” ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี  ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้นก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละ 15 ต่อปี “

                  นอกจากนี้ในกรณีที่ดอกเบี้ยมิได้กำหนดอัตราไว้โดยธรรมนิติกรรมหรือบทบัญญัติอันใดอันหนึ่งชัดแจ้ง ประมวลกฎหมายแพ่งและปริมาตรา 79 บัญญัติให้ใช้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี 

                 จากบทบัญญัติทั้งสองมาตราดังกล่าวเป็นเรื่องของการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่ให้เกินร้อยละ 15 ต่อปี   หรือ 1.25 ต่อเดือน หรือช่างละบาทต่อเดือน และมีบทบัญญัติในกรณีไม่ระบุอัตราดอกเบี้ยไว้โดยนิติกรรมหรือโดยบทบัญญัติชัดแจ้ง  ให้ใช้อัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มีข้อสังเกตดังต่อไปนี้

                 ข้อสังเกตประการแรก     นอกจากบทบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว  ในทางอาญายังมีกฎหมาย    กล่าวคือ   พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราพุทธศักราช 2475  ถูกจัดให้ถือเป็นความผิดทางอาญาระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี   และปรับไม่เกิน 1,000 บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ  ซึ่งเหตุผลและเจตนารมณ์ของการร่างกฎหมายฉบับนี้จะเห็นได้จากคำแถลงการณ์คณะกรรมการราษฎรเกี่ยวกับพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราพุทธศักราช 2475  หวังจะบำรุงการกู้ยืมให้เป็นไปในทางการที่ควร   และในตัวบทบัญญัติกฎหมายก็กล่าวไว้ด้วยว่า  การกู้ยืมเงินโดยอัตราดอกเบี้ยสูงเกินควรนั้น   ย่อมเป็นทางเสื่อมประโยชน์ของบ้านเมือง  สมควรจะป้องกันราษฎรมิให้ต้องเสียดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

                 ประการที่สอง    เมื่อการกู้ยืมโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  เป็นการฝ่าฝืนทั้งกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา ก็มีผลตกเป็นโมฆะ   ซึ่งการตกลงเป็นโมฆะนี้    แนววินิจฉัยของศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะเฉพาะข้อตกลงเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราเท่านั้น     ส่วนต้นเงินไม่โมฆะ  หนี้ตามสัญญากู้ยังคงสมบูรณ์อยู่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยเฉพาะบทบัญญัติส่วนท้ายของมาตรา 654 ก็บัญญัติไว้ว่า  ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละ 15 ต่อปี

                 ประการที่สาม   ปัญหาต่อมาคือ  เมื่อถือว่ากรณีผู้กู้โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา    ดอกเบี้ยเป็นโมฆะ  ต้นเงินยังสมบูรณ์  ผู้ให้กู้จะยังคงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ยได้หรือไม่  หากคิดได้  จะคิดดอกเบี้ยในอัตราเท่าใด  และมีแนวคำพิพากษาวินิจฉัยว่าคิดดอกเบี้ยกันได้ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี

                 แนวคำพิพากษาฎีกาในเรื่องของดอกเบี้ย

                คำพิพากษาฎีกาที่ 1100/2523  ถ้าเงินค่าเซ้งตึกที่ต้องคืนกัน 80,000 บาท  คู่กรณีตกลงกันทำเป็นสัญญากู้โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 ครึ่งเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลา 15 เดือน  เงิน 30,000 บาท  รวมเป็นสัญญากู้ 110,000 บาท  เงิน 30,000 บาทนี้เป็นมูลค่าทั้งหมด  เจ้าหนี้มีสิทธิ์ได้รับเงินคืนโดยรวมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี 

                   คำพิพากษาฎีกาที่ 4056/2528  จำเลยกู้เงินโจทก์  สัญญากู้เงินมีข้อความระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ร้อยละ 18 ต่อปี   จึงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้  ข้อกำหนดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ  ย่อมมีผลให้โจทก์หมดสิทธิ์ที่จะเลือกเอาดอกเบี้ยตามสัญญาได้ อย่างไรก็ดี  สัญญากู้มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้  ฉะนั้นหลังจากที่โจทย์ได้แจ้งให้จำเลยทราบเพื่อทำการชำระหนี้ตามสัญญาแล้ว  จำเลยยังคงเพิกเฉยไม่ได้ปฏิบัติตามคำเรียกร้องของโจทก์  ในกรณีเช่นนี้จำเลยได้ชื่อว่าสิ่งนั้นแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นไปโจทก์ชอบที่จะเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีเอาแก่จำเลยได้

                  คำพิพากษาฎีกาที่ 4010/2530  โจทก์เรียกดอกเบี้ยเงินกู้จากจำเลยในทางร้อยละ 20 ต่อปี  เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราพุทธศักราช 2475  ขอกำหนดอัตราดอกเบี้ยจึงตกเป็นโมฆะ  โจทย์หมดสิทธิ์เรียกดอกเบี้ยตามสัญญา   แต่มีสิทธิ์ได้รับดอกเบี้ยโดยเหตุผิดนัดในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัด

                 ข้อสังเกต

                ฎีกาทั้ง 3 ที่ยกมานี้ศาลได้วินิจฉัยว่า  การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นโมฆะ  แต่ก็ยังเรียกดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี  เพียงแต่ฎีกาที่ 4056/2528, 4010/2510  อ้างอิงว่าเป็นการได้ดอกเบี้ยโดยเหตุผิดนัด   ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 224 ซึ่งก็เรียกได้ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีเหมือนกับมาตรา 7

             สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาปัญหาข้อกฎหมายผ่านทนายความคดีเงินกู้  ติดต่อ 091-047-3382 (ทนายสุริยา สนธิวงศ์)

 

กฎหมายหน้ารู้

เรื่องต้องรู้ก่อนฟ้องคดี
การส่งคืนรถเช่าซื้อก่อนกำหนด  ควรจัดทำหลักฐานกันอย่างไร

สอบถามข้อมูล




    สำนักงานกฎหมาย สยามอินเตอร์ลอว์

    71/264 หมู่บ้านเดอะคัลเลอร์ส บางนา
    ซอยมหาชัย ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

    02-1217414 , 091-0473382

    siaminterlaw09@gmail.com

    ติดตามเรา

    • Facebook
    • Instagram
    • youtube
    • Line